ไขข้อข้องใจ ทำอย่างไรประสิทธิภาพในการทำงาน จึงจะเพิ่มขึ้น ?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากจะเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานให้ตัวเองมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร มาไขข้อข้อใจเหล่านั้น กับ Shine On (ไชน-ออน) กันค่ะ
ข้อสงสัย:
ถ้าไม่เห็นด้วยกับเจ้านาย ในการตัดสินใจของเขา หรือเธอ เกี่ยวกับเรื่องงาน ที่เรารับผิดชอบ ควรหรือไม่ควรกันแน่ที่จะแสดงความคิดเห็นของ ตัวเองออกไป ?
ข้อแนะนำ:
ถือเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงานทุกสายอาชีพ ที่เจ้านาย และลูกน้องจะมีความคิดเห็นไม่สอดคล้องกัน หรือตรงข้ามกันบ้างในบางครั้ง และเจ้านายบางคนก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น หรือข้อขัดแย้งนั้น เพียงแต่คุณควรที่จะเลือกข้อความ หรือคำพูดในการแสดงความคิดเห็นให้ดี โดยควรเป็นไปในทำนองเสนอข้อคิดเห็นมากกว่าคัดค้านอย่างแข็งขัน เพราะนอกจากจะทำให้เขาหรือเธอรู้สึกไม่ดี ซึ่งเป็นผลเสียต่อตัวคุณเองได้แล้ว ยังต้องระวังอย่างมากไม่ให้เป็นการก้าวข้ามเส้นของมารยาทในการทำงานระหว่างเจ้านาย และลูกน้องอีกด้วย และถึงแม้ว่าปฏิกิริยาของเจ้านายต่อความคิดเห็นของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม ให้บอกตัวเองเสมอว่าเขาหรือเธอคือเจ้านาย มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจ ดังนั้นบทสรุปจะเป็นอย่างไร ก็ต้องเข้าใจตามนั้น อย่างไรก็ตาม มีคนบางประเภทที่รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก หากมีคนไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา หากเจ้านายคุณจัดอยู่ในประเภทนั้นแล้วหล่ะก็ แม้จะไม่เห็นด้วยมากแค่ไหน ทางเดียวที่คุณควรทำ คือรูดซิปปากไว้ ดีที่สุด
ข้อสงสัย:
ฉันเพิ่มจบการศึกษามาไม่นาน และกำลังหางานอยู่ แต่ยังหาตำแหน่งงานอย่างใจฝันไม่ได้ จะถือเป็นการเสียเวลาหรือเปล่า หากฉันจะหางานอื่นทำไปก่อน หรือควรจะรอ จนกว่าจะได้งานอย่างที่ฝัน ?
ข้อแนะนำ:
สำหรับเด็กจบใหม่ ยิ่งมีโอกาสได้ทำงานเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีกับตัวคุณเองมากเท่านั้น การตอบรับงานในตำแหน่งที่ยังไม่ใช่สิ่งที่คุณฝันไว้ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าให้รับงานทุกอย่างที่เข้ามาโดยไม่เลือกเลย ตรงกันข้าม คุณควรพยายามหางานที่มีลักษณะใกล้เคียงกับงานในฝัน หรือหากเนื้องานไม่ใกล้เคียง ก็ควรอยู่ในธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้ก้าวหน้าไปสู่งานที่คุณฝันไว้ได้ง่ายขึ้น คุณควรให้เวลาตัวเองลองทำงานที่หาได้ไปก่อน อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์การทำงาน แล้วค่อยเริ่มหางานในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือใกล้เคียงกับงานในฝันของคุณมากขึ้น
ข้อดีของการเข้าไปคลุกคลีในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ คือ คุณจะมีคนรู้จักหรือคอนเนคชั่นมากขึ้น และพวกเขานี่แหละที่เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารชั้นเยี่ยม หากงานในฝันของคุณกำลังเปิดรับสมัครพนักงานใหม่อยู่
ข้อสงสัย:
จะทำอย่างไร ฉันถึงสามารถแสดงให้คนอื่นในที่ทำงาน ทั้งเพื่อนร่วมทีม และหัวหน้าเห็นในความสามารถเฏพาะทางของฉันได้ โดยไม่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าฉันกำลังโชว์ออฟ ?
ข้อแนะนำ:
หากคุณรู้ตัวเองดีว่ามีความสามารถเฉพาะทางที่ดดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง สามารถเป็นประโยชน์ และส่งผลดีกับผลงานโดยรวมได้ เวลาที่ทีมงานต้องการความช่วยเหลือให้คุณลองเสนอตัวเข้าไปช่วยงานทางด้านนั้นอย่าสม่ำเสมอ โดยใช้คำพูดประมาณว่า “ที่จริงแล้ว ฉันชอบทำนู่นทำนี่เกี่ยวกับซอฟท์แวร์ตัวนี้อยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวขอเอาข้อมูลตรงนี้ไปจัดทำให้ แล้วจะกลับมาส่งให้ตรวจดูนะคะ” และหากผลงานชิ้นนั้นออกมาดี เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานก็จะเริ่มสังเกต และรับรู้ได้ว่าคุณมีความสามารถเฉพาะทางด้านนั้นจริงๆ พวกเขาก็พร้อมที่จะยอมรับและชื่นชม เพราะคุณไม่ได้เก็บความสามารถเหล่านี้ไว้กับตัวเองคนเดียว แต่ทุ่มเทให้กับส่วนรวม
ข้อสงสัย:
ฉันเห็นเพื่อนร่วมงานบางคนใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ เปรี้ยวจี๊ดมาทำงานได้ หมายความว่าฉันเองก็ใส่ได้เหมือนกันหรือเปล่า เพราะการแต่งตัวในบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็น่าจะมีมาตรฐานเดียวกัน ?
ข้อแนะนำ:
กฎระเบียบในการแต่งตัวของพนักงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละแผนก จริงอยู่ที่โดยภาพรวมอาจจะยึดมาตรฐานเดียวกัน แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยแล้ว จะมีอะไรที่แตกต่างกันไปอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ระเบียบการแต่งตัวของพนักงานในฝ่ายไอที พนักงานขาย หรือพนักงานฝ่ายบุคคล ย่อมแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของหน้าที่ และความรับผิดชอบ จึงไม่ควรที่จะเหมารวมเอาเอง หากเห็นเพื่อนพนักงานที่ไม่ใช่แผนกเดียวกัน สามารถแต่งตัวสุดจี๊ดมาทำงานได้ ทางที่ดีที่สุด คุณควรเช็คกับหัวหน้า หรือผู้จัดการในแผนกจะดีกว่า แต่ต้องระวังคำถามอย่าให้ดูเหมือนกับว่าคุณอยากแต่งตัวแรงๆ มาทำงานเชียวหล่ะ ไม่งั้นแทนที่จะได้คำตอบ อาจถูกห้ามเอาได้
ขอบคุณข้อมูล: นิตยสาร cosmopolitan