โรคกรดไหลย้อน โรคฮิต..จากไลฟสไตล์ผิดๆ!!
โรคกรดไหลย้อน
กินอาหารไม่ตรงเวลา กินอาหารมากเกินไป หรือกินตอนดึกดื่นแล้วนอนเลย ไลฟ์สไตล์แบบนี้ ระวัง!! โรคกรดไหลย้อนอาจจะถามหาได้นะ
โรคกรดไหลย้อน หรือ เกิร์ด (GERD; Gastro-Esophageal Reflux Disease) เป็นคำเรียกอาการของโรคที่ภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก เพราะความผิดปกติของหูรูดระหว่างหลอดอาหาร สามารถพบในคนทั่วไป ทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุ แต่จะพบได้มากในคนอ้วน หรือคนที่สูบบุหรี่ และการไหลย้อนของกรด ถ้ามีมาก อาจไหลออกนอกหลอดอาหาร อาจทำให้มีผลต่อกล่องเสียง ลำคอ หรือปอดได้หากละเลยไม่ไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา อาจทำให้เรื้อรังกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
โรคกรดไหลย้อนสามารถเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การดื่มน้ำอัดลม การรับประทานอาหารเปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด ไปจนถึงการรับประทานอาหารเวลากลางคืน เสร็จแล้วเข้านอนทันที
อาการที่บ่งบอกว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน
สามารถแบ่งอาการออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. อาการในหลอดอาหาร จะเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในอก (heartburn) เนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นมาจึงทำให้หลอดอาหารอักเสบ และยังมีอาการจุกแน่นบริเวณหน้าอก เหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ในลำคอ หายใจไม่สะดวกเวลานอน กลืนอาหารลำบาก มีอาการเรอเปรี้ยว และคลื่นไส้
2. อาการนอกหลอดอาหาร บริเวณกล่องเสียง และหลอดลม โดยจะมีอาการเจ็บหน้าอก เนื่องจากปอดอักเสบ หรืออาการไอเรื้อรัง เจ็บคอเรื้อรัง แสบลิ้นเรื้อรัง เสียงแหบ โดยเฉพาะในตอนเช้า เนื่องจากเวลานอนกรดจะไหลย้อนขึ้นมาได้ บางกรณีเกิดอาการกรดไหลย้อนมาก จนทำให้ฟันสึกกร่อน ไปจนถึงฟันผุเลยทีเดียว
วิธีรักษาโรคกรดไหลย้อน
การรักษาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
1. เลิกบุหรี่ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และน้ำอัดลม
2. รับประทานอาหารให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
3. ลดอาหารมัน ของทอด และของหวาน
4. รับประทานอาหารแค่พออิ่ม แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ
5. ลดน้ำหนัก หรือรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี
การรักษาโดยใช้ยา และการผ่าตัด
1. เมื่อคิดว่าตัวเองเข้าข่ายเป็นโรคกรดไหลย้อน ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยาลดกรดมารับประทานเอง
2. กรณีที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดผูกกระชับหูรูดกระเพาะอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้อีก
ยิ่งระยะหลังๆ มานี่ จะพบว่ามีคนเป็นโรคกรดไหลย้อนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่อยากเป็นโรคนี้ ปรับเปลี่ยนนิสัย และพฤติกรรมการกินเสียใหม่ ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกรดไหลย้อนนี้ก็จะลดน้อยลงไปได้
โรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน
ขอบคุณข้อมูล: th.wikipedia.org, นิตยสาร Lisa